|
คุณสมบัติของไม้เปล่า
ท่านคงเคยคิดหรือไม่ว่า พวกไม้เปล่าๆ ที่ไม่มียางติดอยู่ ทำไมถึงได้แพงจัง และมันจะใช้ตีปิงปองอย่างไร?
จริงๆ แล้ว ไม้เปล่าๆ พวกนี้ ถูกคิดค้นผลิตขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นได้เลือกว่า จะใช้ไม้เปล่าแบบใดดี ซึ่งไม้ปิงปองแบบนี้จะถูกผลิตออกมาด้วยความพิถิพิถัน มีการเลือกใช้เนื้อไม้ที่มีคุณภาพ มีการคิดค้นใส่เทคโนโลยี่่ต่างๆ เข้าไป เพื่อให้เกิดเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของแต่ละบุคคล ซึ่งจะแตกต่างๆ จากไม้ปิงปองประเภทที่มียางปิงปองติดมาสำเร็จอย่างสิ้นเชิง บางอันจะมีคุณสมบัติที่เด้งมาก บางอันมีคุณสมบัติที่เด้งน้อย บางอันน้ำหนักเบา บางอันน้ำหนักมาก บางอันอาจจะมีคุณสมบัติความเด้ง 2 ด้านที่ไม่เท่ากัน ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ผลิตจะมีแนวทางในการผลิตไม้ออกมาให้ตรงกับความต้องการของตลาดอย่างไร
โดยทั่วไปไม้เปล่า จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ไม้เปล่าที่เป็นเนื้อไม้ธรรมชาติทั้งอัน และ ไม้เปล่าที่มีการสอดไส้ต่างๆ เข้าไปในชั้นไม้
ไม้เปล่าที่ชั้นไม้ต่างๆ เป็นชั้นไม้ธรรมชาติล้วนๆ ไม้เปล่าที่มีการสอดไส้วัสดุต่างๆ เข้าไปในชั้นไม้
สำหรับคุณสมบัติหรือข้อแตกต่างระหว่างไม้ปิงปองทั้งสองแบบนี้ มีดังนี้
ไม้ธรรมชาติ
ยิ่งมีชั้นไม้หลายชั้น ก็จะให้ความเด้งกับลูกปิงปองมากยิ่งขึ้น เช่น 9 ชั้นเด้งกว่า 7 ชั้น และ 5 ชั้น ตามลำดับ แต่ก็มีไม้บางรุ่น ใช้เนื้อไม้เพียงชั้นเดียวมาทำไม้ปิงปองก็มีเช่นกัน ซึ่งก็มีความเด้งมากเช่นกัน เนื่องจากเนื้อไม้ชั้นเดียวมีความหนาแน่นสูง จึงส่งผลให้เด้งแรงได้ แต่ก็เป็นเนื้อไม้ที่หาได้ยาก และมักจะมีราคาสูงอีกด้วย
เนื้อไม้ธรรมชาติล้วนแบบหลายชั้น เนื้อไม้ธรรมชาติล้วน ชั้นเดียว
ไม้ธรรมชาติประเภทสอดไส้ต่างๆ
ตามกติกาสากลได้กำหนดไว้ว่า ไม้ปิงปองจะต้องผลิตจากเนื้อไม้ธรรมชาติ 85% ดังนั้นที่เหลืออีก 15% จึงสามารถใช้วัสดุอื่นใดที่ไม่ใช่เนื้อธรรมชาติมาทดแทนได้ ดังนั้นจึงได้มีผู้คิดค้นนำเอาวัสดุต่างๆ มาสอดแทรกไว้ในชั้นไม้ ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมา เช่น แผ่น CARBON , แผ่น GARPHITE , แผ่น TITANIUM ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละวัสดุที่นำมาใช้ ย่อมมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน จึงกลายเป็นข้อแตกต่างของผู้ผลิต ที่พยามคิดค้นหาวัสดุมาใส่ เพื่อให้สินค้าของตนเองเกิดความแตกต่างที่ไม่เหมือนกับคู่แข่ง ซึ่งผลที่ติดตามมา ก็จะทำให้ขายได้ราคาสูงกว่าไม้ธรรมชาตินั่นเอง
สำหรับคุณสมบัติข้อแตกต่างระหว่างไม้ธรรมชาติ กับ ไม้มีไส้ มีข้อแตกต่างตรงจุด SWEET SPOT บนหน้าไม้ ( sweet spot หมายถึง พื้นที่ที่แข็งแกร่งที่สุด บนหน้าไม้ปิงปอง ที่จะทำให้การกระดอนลูกปิงปองมีประสิทธิภาพสูงสุด ) ซึ่งไม้ธรรมชาติ จะมีพื้นที่ sweet spot น้อยกว่าไม้ที่มีการสอดไส้อยู่ภายใน ส่งผลให้เมื่อใช้ไม้สอดไส้ตีลูกปิงปองจะมีพื้นที่ในการเด้งเพิ่มมากขึ้นกว่าไม้ธรรมชาตินั่นเอง แต่ผู้เล่นบางรายที่มีความแม่นยำให้การตีลูกปิงปองบนหน้าไม้อยู่ตรงกลางอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่ชอบไม้ที่มีการสอดไส้ก็ได้เช่นกัน
แต่ไม้เปล่าๆ เหล่านี้จะยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องตามกติกานะครับ เพราะเราจะต้องไปเลือกหายางปิงปองที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ นำมาติดลงหน้าไม้เปล่าๆ เหล่านี้เสียก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในการฝึกซ้อมและแข่งขันได้นะครับ
| ||||||||||||||
แสดงความคิดเห็น | ||||||||||||||
| ||||||||||||||
|